วันพฤหัสบดีที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2557

บะหมี่กะเพราหมู (สูตรสำเร็จ)

บะหมี่กะเพราหมู (สูตรสำเร็จ)


บะหมี่ผัดกะเพราหมู เป็นการนำเมนูยอดฮิตของคนทุกเพศ ทุกวัย อย่างผัดกะเพราหมูสับมาผสมกับการผัดเส้นบะหมี่ ทำให้เกิดเมนูและรสชาติใหม่น่าลิ้มลอง

ส่วนประกอบ
  • เนื้อหมูบดหยาบ 200 กรัม
  • ใบกะเพรา (½ ถ้วยตวง) 20 กรัม
  • พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ 1 เม็ด
  • บะหมี่ไข่ 3-5 ก้อน
  • คนอร์สูตรสำเร็จผัดกะเพรา 1 ซอง

วิธีทำ
  1. นำบะหมี่ไปลวกในน้ำเดือดจนสุก นำขึ้นสะเด็ดน้ำใส่ถ้วย แล้วคลุกเส้นกับน้ำมัน พักไว้
  2. ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟร้อน นำหมูสับลงไปผัดกับน้ำมันจนสุกดี เติมน้ำลงไปแล้วผัดให้เข้ากัน
  3. ใส่คนอร์สูตรสำเร็จผัดกะเพราลงไป ผัดให้เข้ากัน ใส่พริกชี้ฟ้าแดงหั่น และ ใบกะเพราลงไป ผัดเร็วๆ เมื่อเข้ากันดี ใส่เส้นหมี่ที่ลวกไว้ลงไปผัดให้เข้ากัน จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟ



ข้าวซอยเนื้อ

ข้าวซอยเนื้อ


หากใครที่ชอบรสชาติอาหารเหนืออย่างข้าวซอยแล้ว เมนูข้าวซอยเนื้อเป็นอีกเมนูที่ควรลิ้มลอง เพราะจะได้รสชาติอร่อยเด็ดของข้าวซอยและกลิ่นรวมไปถึงรสชาติของเนื้อที่ใส่ลงในข้าวซอย ซึ่งเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัวเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นจึงเป็นหนึ่งในเมนูที่ไม่ควรพลาด

ส่วนประกอบ
  • ซีอิ๊วดำ(12 กรัม) 1 ช้อนโต๊ะ
  • กะทิ (1 ลิตร) 4 ถ้วยตวง
  • หางกะทิ (0.5 ลิตร) 2 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า (1.5 ลิตร) 6 ถ้วยตวง
  • เนื้อน่อง หรือเนื้อส่วนที่ชอบหั่นชิ้นพอคำ 1 กิโลกรัม
  • คนอร์ซุปไก่ก้อน 3 ก้อน
  • น้ำตาลปีบ 2 ½ ช้อนโต๊ะ
  • บะหมี่ 10 ก้อน
  • ผักกาดดอง 1 ต้น
  • หอมแดงซอย 300 กรัม
  • มะนาว 5 ลูก
  • น้ำมันพืชสำหรับทอด
  • เครื่องแกง
  • พริกขี้หนูแห้งคั่ว 20 เม็ด
  • พริกชี้ฟ้าแห้งคั่ว 5 เม็ด
  • ลูกผักชี (1.5 กรัม) ½ ช้อนชา
  • ยี่หร่า (1.5 กรัม) ½ ช้อนชา
  • โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
  • หอมแดงคั่ว 9 หัว
  • กระเทียม 3 กลีบใหญ่
  • ขิงแก่ 6 แว่น
  • ขมิ้นสด 1 นิ้ว 1 ชิ้น
  • เกลือ (15 กรัม) 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
  1. ทอดบะหมี่ 2 ก้อน และทอดเผื่อสำหรับใช้แต่งหน้าด้วย
  2. โขลกพริกแห้งคั่ว ลูกผักชี ยี่หร่า โป๊ยกั๊ก หอมแดงคั่ว กระเทียม ขิงแก่ ขมิ้นสด และเกลือให้ละเอียด พักไว้
  3. เคี่ยวเนื้อกับหางกะทิประมาณ 30 นาที หรือจนกระทั่งเนื้อเริ่มนุ่ม
  4. ตั้งกระทะใส่หัวกะทิพอแตกมัน ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดให้หอม ใส่เนื้อ เติมกะทิลงไปทั้งหมด และเติมน้ำเปล่า
  5. พอเดือดใส่คนอร์ซุปไก่ก้อน และน้ำตาลเคี่ยวให้เนื้อนุ่มยกลง รับประทานกับ ผักกาดดองหั่น พริกป่นผัดกับน้ำมัน
  6. จัดเสิร์ฟโดย ใส่เส้นที่ทอดในชามตักน้ำเข้าซอยราด แต่งหน้าด้วยหอมซอย ผักดอง บะหมี่ทอด



ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น

ข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น


สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเมนูอาหารญี่ปุ่น ขอแนะนำเมนูข้าวหน้าเนื้อญี่ปุ่น รสชาติของข้าวญี่ปุ่นและเอกลักษณ์ของเนื้อข้าวที่มีความนุ่มและเหนียว ผสานกับรสชาติเนื้อสไลด์บางๆ ติดมันนิดหน่อย โดยราดด้วยน้ำซอสโชยุ รับประทานคู่กับไข่ออนเซ็น และขิงดอง นับว่าเป็นเมนูที่อยากจะชวนให้ทุกๆ คนได้ลองทำรับประทานเอง

ส่วนประกอบ
  • เนื้อวัวติดมัน สไลด์บาง 300 กรัม
  • ขิงขูดละเอียด 5 กรัม
  • สาเก 3 ช้อนโต๊ะ
  • มิริน 3 ช้อนโต๊ะ
  • โชยุ (ซีอิ๊วญี่ปุ่น) 3 ช้อนโต๊ะ
  • คนอร์อร่อยชัวร์ 1 ½ ช้อนชา
  • น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
  • ปลาโอแห้ง หรือผงดาชิ ¼ ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
  • ต้นหอมซอย 2 ต้น
  • หัวหอมใหญ่ 1 ลูกหั่นเสี้ยว 200 กรัม
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง
  • ข้าวสวยญี่ปุ่น และขิงดองสีแดงตามชอบ

วิธีทำ
  1. นำน้ำใส่หม้อตั้งไฟ พอเดือดปิดไฟ ใส่ไข่ลงไปปิดฝาทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที นำออกมาแช่น้ำเย็น พักไว้
  2. นำผงดาชิ หรือปลาโอแห้งมาแช่น้ำร้อน (120 มล.) ไว้สัก 10 นาที กรองเอาแต่น้ำซุป พักไว้
  3. ขูดขิงสดให้ละเอียด คั้นเอาแต่น้ำ ½ ช้อนชา ตั้งน้ำให้เดือดแล้วนำเนื้อวัวลงไปลวกพอสุก ตักขึ้น พักไว้
  4. ทำน้ำซอสโดยใส่สาเก มิริน โชยุ น้ำตาลผสมให้เข้ากันในกระทะ เร่งไฟพอซอสเดือด แล้วใส่น้ำซุปปลาโอ ขิงขูด คนอร์อร่อยชัวร์ และหอมใหญ่ปิดฝาต้มให้เดือดสักครู่ แล้วเปิดฝา หรี่ไฟลง เคี่ยวต่อสักครู่ ใส่เนื้อลงไป เมื่อเนื้อสุกให้ปิดไฟ นำเนื้อที่ได้ราดบนข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ รับประทานคู่กับไข่ออนเซ็น และขิงดอง



กุ้งพันตะไคร้เวียดนาม

กุ้งพันตะไคร้เวียดนาม


ส่วนผสมสำหรับ 1–2 ที
  •  เนื้อกุ้งแกะ 200 กรัม
  •  มันหมู 25 กรัม
  •  เนื้อปลาขูด 150 กรัม
  •  ไข่ไก่ 1 ฟอง
  •  พริกไทย 1 ช้อนชา
  •  น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  •  กระเทียมสับ 20 กรัม
  •  ตะไคร้ตำอย่างละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  •  น้ำตาลไอซิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ
  •  เกลือ 1/2 ช้อนชา
  •  ต้นตะไคร้ 5–8 ต้น
  •  น้ำมันสำหรับทอด

วิธีทำ
1. ปั่นเนื้อปลากับมันหมู จนกระทั่งเนียนเข้ากัน ใส่เนื้อกุ้งลงตีผสม แล้วใส่เครื่องปรุงทั้งหมดตีต่อจนเข้ากันอีกเครั้ง
2. ปั้นเป็นก้อนกลมแบนตามชอบ นำแท่งตะไคร้เสียบตรงกลาง นำไปนึ่งนสุก จากนั้นนำไปทอดอีกครั้งจนสุกเหลืองตามชอบ เสิร์ฟพร้อมผักสด เส้นหมี่ และผักดอง

ทาโกยากิ

ทาโกยากิ


วัตถุดิบ
- แป้งทาโกะยากิสำเร็จรูป
- ซอสราดทาโกะยากิ
- เนื้อปลาโอฝอยอบแห้ง ทั้งหมดเป็นของนำเข้ายี่ห้อทอปแวลู มีขายที่ Max Value
- มายองเนสขวดบีบของคิวพี ซื้อที่เทสโก้
- หนวด+เนื้อปลาหมึก
- ต้นหอมซอย
- ไข่ไก่
- น้ำสะอาด
ไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย แป้งสำเร็จรูปรสโอเคอยู่แล้ว

ขั้นตอนการทำ
1.ผสมแป้งทาโกะยากิ 2ถ้วยครึ่ง กับน้ำสะอาด 3 3/4 ถ้วย + ไข่ไก่ 1 ฟอง คนให้เข้ากัน
2.โรยต้นหอมซอยลงไปในแป้ง
3.ใช้น้ำมันทาหลุมทาโกะยากิให้ทั่วๆ
4.หยอดแป้งให้เกือบเต็มหลุมเลย ก่อนหน้านี้ช่วงทดลองใส่แค่ครึ่งเดียวมันไม่ค่อยกลมน่ะ เอามันเต็มๆเลยดีก่า อย่าลืมหยอดปลาหมึกด้วย
5.รอแป้งสุกนิดนึงก็กลิ้งกลับด้าน คอยกลิ้งๆไปเรื่อยๆจนเนื้อแ้ป้งด้านนอกเป็นสีน้ำตาลสวยตักใส่จาน
6. บีบซอสทาโกยากิ+มายองเนส โรยหน้าด้วยปลาโอแห้ง


เคล็ดลับ
  • ระหว่างที่รอให้สุก ถ้าพบว่าหลุมเริ่มจะหลวมๆหยอดแป้งเพิ่มได้ ทีนี้ละกลมกิ๊กสวยงาม
  • ถ้าอยากให้มันกรอบเกรียมนิดๆให้หยอดน้ำมันลงไปในหลุมหน่อยนึง ออกมาสวยกริ๊บ



หมูอบน้ำผึ้ง

หมูอบน้ำผึ้ง



ครื่องปรุง

  • สันคอหมู 1 กิโลกรัม
  • ซีอิ้วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสมะเขือเทศ 4 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • น้ำผึ้ง ½ ถ้วย
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วย

วิธีทำ
1. นำสันคอหมูมาล้างน้ำให้สะอาด ซับน้ำให้แห้งแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1 นิ้ว

2. ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดลงในชามผสมแล้วคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน

3. นำเนื้อหมูที่หั่นไว้ใส่ลงในชามผสม คลุกเคล้าเครื่องปรุงให้ทั่วชิ้นหมู หมักไว้ประมาณ 2 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืนในตู้เย็น

4. นำหม้อมาตั้งไฟปานกลาง ใส่หมูที่หมักไว้ลงไป เทเครื่องปรุงที่หมักไว้ลงไปด้วยแล้วเติมน้ำลงไปให้ท่วมหมู

5. ปิดฝาหม้อแล้วเคี่ยวไปเรื่อยๆ จนเนื้อหมูนุ่ม ระหว่างนั้นก็กลับด้านหมูเป็นระยะ จากนั้น เปิดฝาหม้อ ลดไฟลงเหลือไฟปานกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวไปจนน้ำซอสงวดจึงปิดเตาและยกลงได้


6. ตักหมูอบน้ำผึ้งใส่จาน โรยด้วยต้นหอมซอยเล็กน้อย จากนั้นก็ยกเสิร์ฟได้เลยค่ะ

วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

แกงอ่อมหมู

แกงอ่อมหมู



แกงอ่อมหมู นิยมใช้เนื้อหมูและเครื่องในหมูเป็นส่วนผสมหลัก บ้างใช้แต่เครื่องใน เรียก แกงอ่อมเครื่องในหมู มีวิธีการแกงเช่นเดียวกับแกงเนื้อสัตว์อื่นๆ แกงอ่อม ถือเป็นอาหารชั้นดีอย่างหนึ่งของชาวเหนือนิยมใช้เลี้ยงแขกในเทศกาลงานเลี้ยงต่างๆ

ส่วนประกอบ
  • เนื้อหมูหั่นชิ้นบางๆพอคำ (200 กรัม) 1 ถ้วยตวง
  • กะหล่ำปลี หั่นเป็นชิ้นพอคำ (250 กรัม) 2 ถ้วยตวง
  • กวางตุ้ง (250 กรัม) 2 ถ้วยตวง
  • ผักชีลาวหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว (25 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • ต้นหอมหั่นท่อนยาว 1 นิ้ว (30 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • ตะไคร้หั่นท่อน 1 นิ้วบุบพอแหลก (42 กรัม) 3 ต้น
  • ใบมะกรูดฉีก (4 กรัม) ประมาณ 4 ใบ
  • น้ำปลาร้า (50 กรัม) ¼ ถ้วยตวง
  • น้ำปลา (24 กรัม) 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 2 ถ้วยตวง
  • คนอร์ซุปหมูก้อน 1 ก้อน
  • ข้าวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  • บางสูตรอาจจะใส่ข้าวเบือ ข้าวเบือ คือน้ำข้าวสารไปแช่น้ำ แล้วนำมาโขลกเพิ่มความข้น
  • หัวหอมแดงประมาณ (40 กรัม) 8 หัว
  • พริกขี้หนูประมาณ (20 กรัม) 15 เม็ด

วิธีทำ
  1. โขลกพริกขี้หนู กับหัวหอมแดง ให้เข้ากันไม่ต้องละเอียดมากพักไว้
  2. ตักเครื่องที่โขลกไว้ใส่หม้อตั้งไฟ ใส่ตะไคร้ ตามด้วยเนื้อหมู เติมน้ำเปล่าเล็กน้อย ใส่น้ำปลาร้าและน้ำปลาลง รวนจนได้กลิ่นหอมของสมุนไพรและหมูสุก
  3. เติมน้ำเปล่าลงไปพอเดือดใส่คนอร์ซุปหมูก้อน และข้าวคั่วคนให้เข้ากัน ใส่กะหล่ำปลี กวางตุ้งต้นหอม และผักชีลาว ต้มจนผักทั้งหมดสุ ก ตักใส่ถ้วยพร้อมเสิร์ฟ
  4. หมายเหตุ สำหรับผู้ที่ชอบความรสจัดแบบอีสานแท้ๆ สามารถเพิ่มพริกและปล้าร้าได้ตามชอบ